หลายคนอาจพยายามรักษาปากนกกระจอกด้วยการใช้สมุนไพร ยาทา หรือยาม่วง แต่ความจริงแล้วสมุนไพรและยาทาที่ขายกันทั่วไปมีหลากหลายชนิด ไม่ควรเสี่ยงใช้ยาที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองมากยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งนี้เนื่องจากโดยปกติบริเวณริมฝีปากก็เป็นผิวที่บอบบางระคายเคืองได้ง่ายอยู่เดิม สิ่งที่แนะนำว่าผู้เป็นปากนกกระจอกอาจใช้ได้เอง ได้แก่ การทาลิปบาล์ม (Lip balm) ปิโตรเลียมเจล (Petroleum jelly) น้ำมันมะพร้าว ที่บริเวณมุมปาก จะช่วยป้องกันการระคายเคืองจากน้ำลายได้ในเบื้องต้น ปากนกกระจอก หายเองได้หรือไม่?
กรณีมีเลือดออก ให้ใช้ผ้าก๊อซชุบน้ำเกลือ แล้วนำมาประคบที่ริมฝีปากประมาณ 5 -10 นาที ซึ่งจะช่วยให้เลือดและน้ำเหลืองหยุดไหลได้ 2. ถ้าอาการรุนแรง ควรพาไปพบแพทย์ ซึ่งแพทย์อาจจะจ่ายยาสเตียรอยด์อ่อนๆ มาให้ทาที่ริมฝีปาก 3. ให้เด็กดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน อย่างน้อย 6-8 แก้ว แต่สำหรับเด็กวัยต่ำกว่า 6 เดือนที่ดื่มนมแม่ ไม่จำเป็นต้องให้ดื่มน้ำ แค่ให้ดื่มนมแม่เยอะๆ ก็เพียงพอแล้ว 4. ทานอาหารให้ครบทุกหมวดหมู่ โดยเฉพาะวิตามินบีที่มีอยู่ในอาหารต่างๆ เหล่านี้ เช่น ข้าวกล้อง ผักใบเขียว เมล็ดอัลมอนด์ ถั่วลิสง และมะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น หากลูกดื่มนมแม่ คุณแม่ควรทานอาหารเหล่านี้เพื่อให้สารอาหารส่งผ่านไปทางน้ำนม 5. หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการปากแห้ง อาการปากแห้ง สามารถรักษาและป้องกันได้ถ้าคุณแม่รู้ถึงสาเหตุการเกิดอาการ นอกจากนี้โรคภัยบางชนิดก็มีผลข้างเคียงกับเด็กรวมทั้งยารักษาที่ใช้ ดังนั้นควรสังเกตให้ดีว่าลูกปากแห้งเพราะอะไรจะได้รักษาถูกวิธีนั่นเอง = = = = = = = = = = = = ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่ We promise to provide the knowledge and know-how for new mom.